วิธีลดน้ำหนักแบบไม่โยโย่ ไม่เป็นอันตราย ดีต่อสุขภาพกายและสขุภาพจิต

วิธีลดน้ำหนักแบบไม่โยโย่ ไม่เป็นอันตราย ดีต่อสุขภาพกายและสขุภาพจิต

วิธีลดน้ำหนักแบบไม่โยโย่ ไม่เป็นอันตราย ดีต่อสุขภาพกายและสขุภาพจิต

โยโย่เอฟเฟกต์ (Yo – Yo Effect) เป็นภาวะที่น้ำหนักตัวขึ้นๆ ลงๆ ซึ่งสุดท้ายก็ทำให้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นกว่าเดิมที่เคยเป็น  หรืออาจจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำอย่างไรก็ไม่ลง ไม่ว่าจะพยายามควบคุมหรือควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย เนื่องจากเกิดส่งผลเสียต่อระบบการเผาผลาญ ที่มาจากภาวะมีไขมันเกิน และมวลกล้ามเนื้อลดลง ดังนั้นวันนี้เราจึงมีวิธีลดน้ำหนักแบบไม่โยโย่มาแนะนำ

สาเหตุของการเกิดโยโย่เอฟเฟกต์

สาเหตุหลักของการโยโย่เอฟเฟกต์ ก็คือ วิธีการลดความอ้อนอย่างผิดวิธี และไม่มีการออกกำลังกาย อีกทั้งมีการใช้ยาลดความอ้วนเพิ่มด้วย ซึ่งจะทำให้น้ำหนักลงในช่วงแรก แต่หากหยุดยาเมื่อไหร่น้ำหนักก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และถ้าหากเริ่มที่จะลดน้ำหนักลงอีกก็จะดูเหมือนยิ่งยากมากขึ้น อีกสาเหตุที่ส่งผลต่ำน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากกว่าเดิมก็คือการอดอาหารเพื่อที่จะให้น้ำหนักลง จะได้ผลได้ช่วงแรกเช่นกัน แต่เมื่อกลับมารับประทานอาหารเหมือนเดิมพันก็จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น เพราะช่วงแรกร่างกายจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อส่งผลต่อระบบเผาผลาญพลังงาน

 

 

วิธีลดน้ำหนักแบบไม่โยโย่ ตามหลักอย่างถูกต้อง

การลดความอ้วน ที่จะทำให้ไม่เกิดโยโย่เอฟเฟกต์ จะต้องมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และควรทำระยะสั้นช่วง 6 เดือนแรกประมาณ  2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หลังจากนั้นเพื่อให้คงน้ำหนักนั้นไว้ได้ต่อเนื่อง ควรสร้างกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นเป็น 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์และควรจะต้องมีการตรวจสอบตัวเอง หรือ Self – Monitoring ด้วยการจดบันทึกการรับประทานอาหาร และบันทึกน้ำหนักตัวอย่างต่อเนื่อง

  1. เปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารเช้า

อาหารเช้าสำคัญแต่การลดน้ำหนักก็จะต้องมีการควบคุมสารอาหารโดยไม่ควรทานอาหารที่มีไขมันสูง แนะนำว่าให้กินธัญพืช 1 ถ้วยคู่กับโยเกิร์ต เสริมด้วยผลไม้ประเภทเบอร์รี่

  1. มื้อกลางวันให้เน้นอาหารโปรตีนสูง

มื้อกลางวันจะต้องทานอาหารที่แคลอรีต่ำ ให้โปรตีนสูงประเภท อกไก่เป็นอาหารที่ไขมันน้อยแคลอรีต่ำ คู่กับแตงกวาและมะเขือเทศ หรือไข่ต้ม 2 ฟอง และแครอทต้ม เหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก

  1. ทานของว่างไม่เกิน 2 มื้อต่อวัน

สำหรับอาหารว่างจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารได้ทำงานได้ดีขึ้น ควรเน้นกินผลไม้ เช่น เบอร์รี่ทั้งหลาย หรือขนมพวกเจลาตินแบบ Sugar-Free, ธัญพืชอบกรอบ หรืออัลมอนด์ จะช่วยให้อิ่มอยู่ท้อง

  1. กินอาหารเย็นทานได้แต่ต้องเป็นแคลอรีต่ำ

ควรเลือกกินอาหารเย็นแคลอรีต่ำ โดยปริมาณแคลอรีควรต้องน้อยที่สุดและกินมื้อเย็นก่อนเข้านอน 4-6 ชั่วโมง ที่สำคัญจะต้องทานให้ตรงเวลาและเข้านอนตรงเวลาให้เป็นนิสัย

  1. พยายามลดโซเดียมให้น้อยลง

กินโซเดียมมากเกินไป จะทำให้มีอาการตัวบวมได้ ถึงแม้ว่าเกลือและน้ำปลา จะเป็นเครื่องปรุงที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้มีความอร่อยมากขึ้นก็ตาม

  1. ลดอาหารทุกชนิดที่มีปริมาณน้ำตาลมาก

น้ำตาลคือคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง ซึ่งจะถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสม และเป็นสาเหตุให้เกิดความอ้วน ดังนั้นวิธีลดน้ำหนักแบบไม่โยโย่ควรงดเครื่องดื่มและขนมที่ทุกชนิดที่มีน้ำตาล ไม่ว่าจะเป็นชากาแฟ น้ำอัดลม ชานมไข่มุก เป็นต้น

  1. ต้องทานผักทุกมื้อ

ผักจะช่วยระบบย่อยอาหารได้ดีขึ้นขับถ่ายสะดวก และยังช่วยให้การลดน้ำหนักได้ผลเร็วโดยเฉพาะหากทานผักใบเขียวไปในทุกมื้ออาหารจะช่วยให้ระบบขับถ่ายคล่อง พุงยุบอย่างแน่นอน

  1. เน้นทานอาหารที่มีเส้นใยให้มากขึ้น

อาหารที่มีเส้นใยจากธรรมชาติอย่างผักและผลไม้ ก็สามารถช่วยได้ทั้งพลังงานและสารอาหารจำเป็นต่อร่างกาย และยังช่วยให้เราอิ่มท้องได้นาน และหากกินผลไม้ทดแทนการกินขนมหวานๆ หรือขนมขบเคี้ยว ก็ช่วยลดปริมาณแคลอรี่ไปได้เยอะเช่นกัน

 

 

วิธีลดน้ำหนักแบบไม่โยโย่สำหรับผู้ที่กำลังต้องการที่จะลดอาหารและออกกำลังกายอย่างจริงจัง ควรจะต้องมีความตั้งใจ ความมุ่งมั่น และทำอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่กลับมาอ้วนได้อีก และเมื่อลดน้ำหนักได้แล้วก็จะดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ห่างไกลโรคร้ายต่างๆ สวมเสื้อผ้าก็สวยหล่อขึ้น

 

 

 

# วิธีลดน้ำหนักแบบไม่โยโย่ ไม่เป็นอันตราย ดีต่อสุขภาพกายและสขุภาพจิต

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *