วิธีกินอาหารคีโตและหลักการคีโตเจนิคทำอย่างไรมาดูกัน
วิธีการรับประทานอาหารเพื่อลดน้ำหนักในปัจจุบันมีให้เราเลือกมากมายหลากหลายรูปแบบไม่เว้นในแต่ละวันแต่หนึ่งในวิธีการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ก็คือวิธีกินอาหารแบบคีโตหลายคนอาจสงสัยว่าคีโตเจนิคนั้นคืออะไรวันนี้เราจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันคีโตนั้นเป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ถูกคิดค้นโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ผู้คนสามารถลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้นและเข้ากับวิถีชีวิตประจำวันโดยจะเน้นการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงรองลงมาคือโปรตีนและต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานคาร์โบไฮเดรตทำให้การรับประทานอาหาร
ที่โต๊ะเราสามารถรับประทานอาหารทอดอาหารมันได้อย่างเต็มที่ทั้งหมูสามชั้นหนังไก่ทอดชีสบอลแต่ต้องงดคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลไม่ว่าจะเป็นข้าวเส้นก๋วยเตี๋ยวชานมไข่มุกขนมหวานเมื่อร่างกายไม่ได้รับคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลก็จะเข้าสู่ภาวะที่มีชื่อว่าคีโตซิสร่างกายจะไม่สามารถดึงพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลมาใช้ได้ทำให้ร่างกายต้องหยิบเอาไขมันที่สะสมในร่างกายมาเผาผลาญเป็นพลังงานแทน
ทำให้ถึงแม้ว่าเราจะรับประทานไขมันเข้าไปน้ำหนักก็ลดลงได้เพราะร่างกายมองว่าการที่เราไม่ได้รับประทานคาร์โบไฮเดรตนั้นเท่ากับเรากำลังอดอาหารอยู่อาหารที่กินได้นั้นก็จะประกอบไปด้วยนะและน้ำมันไม่ว่าจะเป็นอะโวคาโดชีสเนยน้ำมันทุกชนิดไม่เว้นแม้กระทั่งน้ำมันหมูโปรตีนไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่หมูสามชั้นเบคอนเนื้อวัวถั่วเหลืองอัลมอนด์แมคคาเดเมียถั่วผักผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อยและไฟเบอร์สูงหลีกเลี่ยงผักผลไม้ที่เติบโตในลักษณะของหัวและใต้ดินสามารถรับประทานผลิตภัณฑ์จากนมได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นวิปครีมครีมชีสโยเกิร์ตเครื่องดื่มสามารถดื่มได้หมดยกเว้นเครื่องดื่มที่มีความหวานหากติดหวานก็สามารถใช้หญ้าหวานแทนได้
อย่างไรก็ตามการรับประทานอาหารตามหลักการคีโตเจนิคนั้นยังกลายเป็นที่ถกเถียงในวงกว้างว่ามันมีความอันตรายหรือไม่และใครที่สามารถทำได้บ้างเนื่องจากมันเป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ค่อนข้างจะสุดโต่งทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงแค่ประเภทเดียวและขาดสารอาหารอีก 1 ประเภทไปเป็นเวลานาน ระบบการทำงานของร่างกายจะสูญเสียความสมดุล ส่งผลต่อสุขภาพตามมาไม่ว่าจะเป็นการขาดสารอาหาร ขาดน้ำและแร่ธาตุ มวลกระดูกและกล้ามเนื้อลดลง อาจเกิดโยโย่เอฟเฟคในบางคนซึ่งจะทำให้มีโรคเบาหวานหรือโรคอ้วนตามมา
เป็นไข้คีโตเนื่องจากร่างกายปรับตัวไม่ทัน อาการจะประกอบไปด้วยกระสับกระส่าย คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย และปวดศีรษะ เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคไต ท้องผูก ประจำเดือนมาไม่ปกติ การนอนหลับมีปัญหา คนที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือผู้ที่มีปัญหาในการเผาผลาญไขมัน คอเลสเตอรอลในเลือดสูง ผู้เป็นโรคตับ ผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยโรคเบาหวานโดยเฉพาะประเภทที่ 1
# อาหารเพิ่มกล้ามเนื้อ ลดไขมัน แค่รับประทานก็มีร่างกายที่ลีนได้